ในบรรดาแพนเค้กต่างแดนที่กำลังมาแรง ร้านสไตล์ฮาวายนั้นโดดเด่นเป็นพิเศษ และท่ามกลางสถานที่เหล่านั้น คาเฟ่คาอีล่า คือร้านที่ได้รับรางวัลอาหารเช้ายอดเยี่ยมในฮาวาย ปี 2011 และ 2012 ร้านนี้เป็นที่ยกย่องว่ามีอาหารเช้าอร่อยที่สุดในฮาวาย เมื่อสาขาแรกของร้านเปิดขึ้นใกล้หอคอยโตเกียวใหม่ในเดือนมิถุนายน 2012 ก็กลายเป็นจุดที่คนยืนต่อแถวกันยืดยาวเพียงชั่วข้ามวัน เพื่อจะขยายพื้นที่ร้านให้กว้างขวางและสะดวกสบายสำหรับลูกค้ามากขึ้น ครึ่งปีต่อมา ในเดือนธันวาคม พวกเขาจึงย้ายไปที่ Omotesando อันเป็นสนามรบดุเดือดสำหรับภัตตาคารแพนเค้ก

แพนเค้กต้นตำรับของคาอีล่า พร้อมทอปปิ้งครบชุด 2,000 เยน แน่นอนเลยว่า บรรดาสาว ๆ คงอดตื้นเต้นไม่ได้กับผลไม้ มากมายที่ปกคลุมหน้าแพนเค้กเหล่านี้

เมนูนี้ประกอบด้วยอาหารเช้าหลากหลายของชาวฮาวาย แต่ที่ได้รับความนิยมมากสุดคือ แพนเค้กต้นตำรับของคาอีล่า พร้อมทอปปิ้งครบชุด เนยแข็งเคี้ยวหนึบมีรสหวานในตัว อร่อยชนิดที่จะติดใจคุณในทันที ทั้งยังเข้ากันอย่างดีกับรสเปรี้ยวจี๊ดของผลไม้ มองเผินๆ ดูเหมือนจะเป็นอาหารจานหนัก ไม่เบา แต่พอเริ่มต้นชิมคุณจะพบว่าเป็นมื้อที่เบากว่าที่คิด คุณซากากามิ(Sakagami) หัวหน้าฝ่ายประชาสัมพันธ์ของร้านบอกว่า "แพนเค้กร้านเราไม่ได้ทอดด้วยน้ำมันหรือเนย ที่นี้คุณจะเห็นสาว ๆ สั่งแพนเค้กมาทานร่วมกับ ไข่ เบเนดิกต์ เป็นปกติทีเดียว"

ร้านยังคงมีลูกค้าแน่นทุกวันหลังย้ายที่ใหม่ แต่ประมาณ 5 โมงเย็นของวันทำงาน จะมีคนต่อคิวไม่มากนัก อย่างไรก็ตาม หากคุณต้องการสัมผัสเสน่ห์ชนิดสุด ๆ ของร้าน "Cafe Kaila" เราขอแนะนำให้คุณไปยืนต่อคิวในช่วงเช้าและร่วมกันช่วงชิง ไข่เบเนดิกต์พิเศษของคาอีล่า ที่จำกัดเพียง 60 ชุดต่อวัน รวมถึงแพนเค้กชนิดอื่น ๆ ด้วย

ในเดือนมกราคม 2013 ร้าน Lumine Est Shinjuku , ภัตตาคารแพนเค้กอันโดดเด่นเป็นเอกลักษณ์ได้เปิดบริการในอาคารสถานีรถไฟชินจูกุ และเป็นที่กล่าวขานถึงในทันที ร้านสาขาใหญ่นั้น อยู่ในรัฐโอเรกอน สหรัฐอเมริกา ซึ่งมีชี่อเสียงเป็นอย่างมาก รวมทั้งได้รับการจัดอันดับในฐานะหนึ่งในสิบสุดยอดร้านอาหารในอเมริกาที่ต้องแวะให้ได้ จากรายการโทรทัศน์ชื่อดังของที่นั่น สิ่งที่ทำให้ร้านนี้โดดเด่นนั่นคือ ทางร้านจัดที่นั่งให้ลูกค้าได้ทอดแพนเค้กบนกระทะร้อน ๆ ด้วยตัวเอง ยิ่งกว่านั้นยังมีเนยแข็ง เครื่องปรุง น้ำเชื่อมและซ้อส ให้เลือกอย่างหลากหลาย ลูกค้าสามารถเลือกส่วนผสมต่าง ๆ ได้อย่างอิสระเต็มทึ่ทีเดียว

ร้านนี้เป็นที่เลื่องลือในเรื่องสไตล์ซึ่งลูกค้าสามารถเลือกเนยและท็อปปิ้งได้หลากหลาย พร้อมกับทอดแพนเค้กของตัวเอง ได้ที่โต๊ะ ภาพจากร้านสาขาใหญ่ในอเมริกา

เราได้ยินมาว่าเคล็ดลับการทำแพนเค้กให้อร่อย และดูน่ากินนั้นอยู่ที่การทอดแผ่นแป้งขนาดเล็ก เส้นผ่านศูนย์กลางราว 12 ซม. "เวลาที่วางผลไม้ซี่งมีน้ำชุ่มลงบนเนยแข็งนั้น เราจะทอดแพนเค้กได้ดีขึ้นถ้าคุณโป๊ะเนยแข็งก้อนเล็ก ๆ ที่ด้านบนแล้วพลิกแพนเค้ก" คุณชินจิ หัวหน้าฝ่ายประชาสัมพันธ์ของร้านบอก เวลากินแพนเค้กที่ทำเสร็จใหม่ ๆ นั้น เราพบว่ามันนุ่มและเบากว่าที่เห็น เราสามารถกินกันได้คนละหลายชิ้นแบบสบาย ๆ ตัวเนยแข็งเองก็มีหลายรสชาติด้วยเหมือนกัน เวลากัดเข้าไปแต่ละคำ ความอร่อยจะแผ่กระจายไปทั่วทั้งปากทีเดียว

ที่สุดยอดที่สุด นั่นคือการทอดแพนเค้กด้วยกันถือเป็นประสบการณ์ที่ทั้งสนุกและสดใหม่อย่างแท้จริง ถ้าคุณไปกับกลุ่มก๊วนเพื่อน ๆ คุณอาจจะสั่งเมนูอื่น ๆ เพิ่มเติมด้วยก็ได้ นี่จึงเป็นคำแนะนำพิเศษสำหรับนักท่องเที่ยวที่มาเป็นกลุ่ม อย่างไรก็ตามตอนนี้ร้านมีคนต่อคิวยาวมาก ๆ ดังนั้นเผื่อเวลาไว้บ้างเป็นดี แต่ที่ แน่ ๆ โต๊ะที่ไม่มีกระทะร้อนจะใช้เวลารอน้อยกว่าพอสมควรทีเดียว และคุณยังจะได้แพนเค้กทอดสด ๆ แบบมืออาชีพจากพนักงานในครัวอีกด้วย

แน่นอนที่ว่ารสชาติก็เป็นจุดที่โดดเด่นเช่นกัน ด้วยความหวานที่แพร่กระจายไปทั่วทั้งปาก จนคุณอดเผลอยิ้มออกมาไม่ได้ ฮ็อดเค้กจะทอดแบบทีละชิ้นบนกระทะทองแดงร้อน ๆ เพื่อความกรอบนอกนุ่มใน รสชาตินั้นอาจจะดูพื้น ๆ อยู่บ้าง แต่ก็เป็นความอร่อยล้ำที่ไม่สามารถทำเองได้ที่บ้าน ชิฟฟ่อนโฮมเมดและสโคนก็เป็นที่นิยมด้วยเช่นกัน ส่วนกาแฟและชานั้นอยู่ในระดับมาตรฐาน ร้านมีบรรยากาศทั้งออกหรูหราและสบาย ๆ เหมือนอยู่ที่บ้าน เสน่ห์อีกอย่างนั้นอยู่ที่ราคาที่สมเหตุสมผล ทำไมไม่ลองแวะไปที่ร้านกาแฟบรรยากาศสบาย ๆ ในย่านกลางเมืองแห่งนี้ แล้วสั่งแพนเค้กแบบญี่ปุ่นมาลองกันหน่อยล่ะ