ภูมิภาคคิวชู นอกจากจะมี ฟุกุโอกะ (FUKUOKA) และ นางาซากิ (NAGASAKI) ที่เป็นที่รู้จักสำหรับคนไทย
คุมาโมโต้ (KUMAMOTO) ยังถือเป็นอีก 1 เมืองในตอนกลางของภูมิภาคนี้ที่ควรค่าแก่การไปท่องเที่ยว
คุมาโมโต้ตั้งอยู่ทางทิศตะวันตกของแม่น้ำชิระคะวะ มีความเจริญรุ่งเรืองในช่วงศตวรรษที่ 17-19
ซึ่งปัจจุปันยังเป็นศูนย์กลางการปกครองทางเศรษฐกิจและท่องเที่ยวอีกด้วย
ที่คุมาโมโต้นี้ เป็นที่ตั้งของ 1 ใน 3 ของปราสาทที่มีความสวยงามที่สุดในประเทศญี่ปุ่น นั่นคือ ปราสาทคุมาโมโต้ (KUMAMOTO CASTEL) นั่นเอง

ปราสาทคุมาโมโต้ มีอายุกว่า 400 ปี ถูกสร้างขึ้นเมื่อปีค.ศ. 1467 และใช้เวลาสร้างถึง 7 ปี
เป็นผลงานการออกแบบของท่าน Kato Kiyomasu โดยมีอาคาร 2 หลัง สูง 4 ชั้น และ 6 ชั้น ตามลำดับ
ซึ่ง ณ ชั้นที่ 6 สามารถมองเห็นวิวทิวทัศน์ของเมืองได้อยากชัดเจน
ปราสาทที่ตั้งอยู่ทุกวันนี้เป็นส่วนที่ได้รับการบูรณะขึ้นใหม่เมื่อปี 1960 เนื่องจากโดนเผาทำลาย เมื่อมีการก่อกบฎในปี 1857
ภายในได้มีการจัดแสดงประวัติความเป็นมาของปราสาทอย่างละเอียด ซึ่งไม่ควรพลาดเป็นอย่างยิ่ง
อีกสถานที่แนะนำคือ Hosogawa Gyobutei ที่พำนักของตระกูล โฮโซกะวะ ผู้เป็นไดเมียวปกครองเมือง ในสมัยเอโดะ
บ้านโบราณแห่งนี้ยังคงสภาพการตกแต่งแบบเดิม ซึ่งเป็นโอกาสที่ดีที่จะได้สัมผัสความงดงามของญี่ปุ่นในสมัยก่อนอย่างแท้จริง
ตระกูลโฮโซกะวะ ยังได้รังสรรค์สร้างสวนซุยเซ็นจิ (Suizenji Jojuen)
โดยรูปแบบการจัดสวนแห่งนี้ ได้จำลองเส้นทาง Tokaido ซึ่งเป็นเส้นทางที่เชื่อมระหว่างเมืองเกียวโตและโตเกียว ในสมัยก่อน ถือว่ามีความสำคัญมาก และใกล้ๆ กันนั้น ยังมีศาลเจ้าอิซุมิ (Izumi Shrine) ศาลเจ้าประจำตระกูล โฮโซกะวะ อีกด้วย
นอกจากสถานที่ที่มนุษย์สร้างขึ้นแล้ว ยังมีสถานที่ท่องเที่ยวทางธรรมชาติที่น่าตื่นเต้น
สถานที่แห่งนี้ คือ ภูเขาไฟอะโสะ (Mt.Aso)
ภูเขาไฟที่คงประทุ และมีขนาดเส้นรอบวงถึง 128 กิโลเมตร นับว่าเป็นภูเขาไฟที่ใหญ่ที่สุดในประเทศญี่ปุ่น
ซึ่งสามารถนั่งกระเช้าไฟฟ้า ขึ้นไปชมทัศนียภาพบนปล่องภูเขาไฟ ที่ความสูงจากระดับน้ำทะเล 1,592 เมตร กันเลยทีเดียว