ชั้น1 เป็นชั้นของนาฬิกาลายดิสนีย์ และแบรนด์เนมดังต่างๆ เช่น กุชชี่ บูการี่ ชาแนล แอร์เมส เบอร์เบอร์รี่

ชั้น2 เป็นชั้นศูนย์ซ่อมนาฬิกา และนาฬิกาข้อมือสำหรับผู้ชาย และนาฬิกาข้อมือแนวสปอร์ต เช่น G-SHOCK,BABY-G,ฮามิลตัน,แทคฮอยเออร์

ชั้น3 เป็นนาฬิกาข้อมือแบรนด์ญี่ปุ่น เช่น ไซโก้ ซิติเซ่น โอเรียนท์

ชั้น4 เป็นชั้นนาฬิกาต่างประเทศ เช่น โรเล็กซ์ โอเมก้า คาร์เทียร์,
IWC,แฟรงมูลเลอร์

ยี่ห้อ BABY-G ซีรี่ย์ BA-110 ดีไซน์G-SHOCK และไซส์สำหรับผู้หญิงทำให้ยังคงได้รับความนิยมจากสาวๆอย่างต่อเนื่อง
ราคา 15,000 เยน （ไม่รวมภาษี）

รุ่นฉลองครบรอบ20ปี BABY-G รุ่น BGD-50-4JR พร้อมกล่องสีทองชมพู ราคา21,000 เยน（ไม่รวมภาษี）

ซีรีย์Neon Dial ของ BABY-G ที่มีสีสันแสบสัน ลวดลายไม่ซ้ำใคร ราคา 13,500 เยน（ไม่รวมภาษี）

โมเดลซัพพอร์ตEARTHWATCH ปี2014　รุ่น GW-9400KJ-8JR　สินค้าจำกัดจำนวน ราคา 50,000 เยน （ไม่รวมภาษี）

นิกสัน ไทม์ เทลเลอร์ เมื่อพูดถึงนิกสันแล้วก็อาจจะนึกถึงรุ่น โครโน ที่ใหญ่เทอะทะกันบ้าง แต่ก็มีดีไซน์สวยๆ ที่ใช้ได้ทั้งผู้หญิงและผู้ชายอีกด้วย

นาฬิกาข้อมือดีไซน์สวย ทันสมัย ฟังก์ชั่นระดับสูง ของ ไซโก้ ลูเกีย รุ่นโซล่า โครโน่กราฟSSVS017(ซ้าย) ราคา42,000 เยน（ไม่รวมภาษี）　SSVS007(ขวา) ราคา44,000เยน（ไม่รวมภาษี）

SEIKO BRIGHTZ SAGA160 นาฬิกาแบบรับคลื่นพร้อมกล่องไทเทเนียม ใช้ได้ยาวนานถึง2ปี ราคา 120,000 เยน（ไม่รวมภาษี）

ซีรีย์ใหม่ของ แอสตรอน
มุมซ้ายรุ่น SBXA33 ราคา225,000 เยน（ไม่รวมภาษี）
มุมขวารุ่น SBXA035 ราคา225,000เยน（ไม่รวมภาษี）
ด้านหน้า SBXA037 ราคา 225,000เยน（ไม่รวมภาษี）

หลังจากที่ลังเลอยุ่นาน เราก็ตัดสินใจเลือกBABY-G ที่พนักงานแนะนำ แล้วจึงไปจ่ายเงินที่เคาน์เตอร์

ในประเทศญี่ปุ่นนั้น สินค้าที่มีราคาตั้งแต่ 10,801เยน ขึ้นไปจะได้งดเว้นภาษีค่ะ ตอนเราจ่ายเงินนั้น ก็ต้องแสดงพาสปอร์ตด้วย เมื่อเราเซ็นชื่อลงในเอกสารของดเว้นภาษีแล้ว ก็เป็นอันเรียบร้อยค่ะ การขอลดหย่อนภาษี 8% นั้นทำได้สำหรับชาวต่างชาติที่พักระยะสั้น เวลา 6เดือนเท่านั้นค่ะ