ภูเขาไฟฟูจิ สัญลักษณ์ของญี่ปุ่น
เป็นภูเขาที่สูงที่สุดในญี่ปุ่น แต่นี่ไม่ใช่สิ่งมหัศจรรย์เพียงอย่างเดียว
เป็นที่รู้กันว่าคนญี่ปุ่นรักสถานที่นี้แค่ไหน
แน่นอนว่าการไปเยือนภูเขาไฟฟูจิสักครั้งคือเสน่ห์อันยากจะลืม
สำหรับคนญี่ปุ่น ภูเขาไฟฟูจิมีความพิเศษอย่างยิ่ง
เพียงแค่ได้เห็นก็รู้สึกตื้นตันใจแล้ว!!
ภูเขาไฟฟูจิสูงเสียดฟ้าตั้งอยู่ระหว่างจังหวัดยามานะชิและจังหวัดชิซุโอกะ ดูยิ่งใหญ่ที่สุดเมื่อมองจากสองจังหวัดนี้ แต่ใน ukiyoe (ภาพพิมพ์แกะจากไม้) 36 มุมมองของภูเขาไฟฟูจิ (Fugaku sanju rokkei) ภูเขาลูกนี้วาดจากมุมมองในสถานที่ต่างๆ ที่ปัจจุบันมีพื้นที่ติดต่อกับจังหวัดคานากาวะ โตเกียว ชิบะ อิบารากิ นากาโน และไอจิ ในงานศิลปะที่ถ่ายทอดมุมมองของภูเขาไฟฟูจิจากไอจิ ฟูจิมิกะฮาราในจังหวัดโอวาริ (Bishu Fujimigahara) นั้น มองเห็นภูเขาไฟฟูจิลิบๆ และมีขนาดเล็กมาก เวลาล่วงเลยผ่านไปหลายชั่วอายุคน คนญี่ปุ่นรู้สึกได้ถึงความปรารถนาอันแรงกล้าเมื่อเห็นทิวทัศน์ของภูเขาไฟฟูจิไกลๆ
ต้องขึ้นไปยืนบนยอดสูงสุดให้ได้สักครั้งหนึ่งในชีวิต!
นานมาแล้ว ชาวญี่ปุ่นคิดว่าภูเขาไฟฟูจิเป็นภูเขาศักดิ์สิทธิ์และน่าอัศจรรย์ด้วยความใหญ่โตสง่างาม การเยือนภูเขาไฟฟูจิเป็นที่นิยมมากสุดในยุคเอโดะ (1603-1868) สำหรับคนธรรมดาในสมัยนั้น การเดินทางต้องใช้เงินมากทำให้การไปเยือนภูเขาไฟฟูจิเป็นแค่ความฝัน แต่หลายคนก็ไม่ละทิ้งความฝัน พวกเขารวบรวมลาวาจากภูเขาไฟฟูจิและสร้างเนินหินเล็กๆ (tsuka) ที่เป็นตัวแทนของภูเขาโดยรอบของแถบคันโตะ เนินหิน (ฟูจิซูกะ) เหล่านี้ปกติหมายถึง "โอฟูจิซัง" (คำเรียกแสดงความเคารพแก่ภูเขาไฟฟูจิ) ว่ากันว่าการปีนขึ้นไปบนเนินหินเหล่านี้คนทั่วไปจะรู้สึกเหมือนกับได้รับพรจากภูเขาไฟฟูจิอันศักดิ์สิทธิ์ ทุกวันนี้ความใฝ่ฝันที่จะปีนขึ้นภูเขาไฟฟูจิสักครั้งยังคงแรงกล้าดังเช่นในอดีต
ความปรารถนาที่จะอยู่เคียงข้างกันตลอดไป...
พื้นที่ทางทิศเหนือจรดฮอกไกโดและทิศใต้จรดโอกินาวา มีแต่ภูเขาล้อมรอบ ซึ่งล้วนแล้วแต่มีชื่อเล่นที่หมายถึงภูเขาไฟฟูจิ อาทิ ภูเขาโยเตอิซังในฮอกไกโดมีชื่อว่า "เอโซะ ฟูจิ" และภูเขาอิวากิซังในแถบโตโฮกุมีชื่อว่า "สึงารุ ฟูจิ" ชื่อเรียกเหล่านี้ ซึ่งแปลว่า "ฟูจิท้องถิ่น" หรือ "บ้านเกิดฟูจิ" ประมาณกันแล้วมีมากกว่า 300 ชื่อเลยทีเดียว! สำหรับชาวญี่ปุ่นแล้ว ภูเขาไฟฟูจิมีชื่อเป็นสัญลักษณ์สื่อถึงภูเขาที่สวยงาม สะท้อนว่าผู้คนต่างต้องการเข้าๆ ไปอยู่ใกล้ๆ
ข้อมูลทางสถิติของภูเขาไฟฟูจิ
3,776 เมตร สูงที่สุดในญี่ปุ่น!
ระหว่างยามานาชิและชิซุโอกะ สถานีฟูจิซังของรถไฟสายฟูจิคิวโกะ
เข้าไปถึง "สายฟูจิ ซุบารุ โกโกเมะ" ถนนสายใหญ่เลียบเขาได้ง่าย ใช้เวลาราว 2 ชั่วโมงจากสถานีชินจูกุในโตเกียว และอีก 4 ชั่วโมงจากสถานีนาโงยา จากสถานีนาโงยา ก็จะไปถึงสถานีโกเทมบะ ใกล้กับภูเขาไฟฟูจิได้ภายใน 2.5 ชั่วโมง!* โดยการเดินทางทั้งหมดนี้ใช้เส้นทางรถไฟและเป็นการคะเนเวลาเดินทางขั้นต่ำ
「ปีน」、「ชมวิว 」、
「สัมผัสพลังแห่งจิตวิญญาณ 」、「สนุกสนาน」
นักปีนเขาช่วงหน้าร้อนปี 2012 (ซึ่งขึ้นไปถึงระดับฮาจิโกเมะหรือสูงกว่านั้น) มีจำนวนเกินกว่า 310,000 คน! (ผลสำรวจของกระทรวงสิ่งแวดล้อม สำนักสิ่งแวดล้อมคันโตะ"
ความสวยงามที่หาใดเปรียบในญี่ปุ่น! เนื่องจากภูเขาลูกนี้ถูกใช้เป็นแนวคิดหลักของงานศิลปะมากมายหลายชิ้น จึงคุ้มค่าอย่างยิ่งที่คุณจะเดินทางมาเห็นด้วยตาตัวเอง
นอกจากยอดสูงสุดแล้ว ยังคงศาลเจ้ามากมายตั้งอยู่บริเวณเชิงเขา ถือเป็นจุดรวมพลังแห่งจิตวิญญาณของญี่ปุ่น!
มีสวนสนุกหนึ่งแห่ง และจุดให้ความบันเทิงมากมายโดยรอบ เช่น โกเทมบะ ฟูจิโยชิดะ และทะเลสาบคาวากุจิ
ภูเขาไฟฟูจิได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกแล้ว!
ในปี 1992 เริ่มมีการยื่นคำร้องขอให้ภูเขาไฟฟูจิเป็นมรดกโลก หลังจากนั้น 20 ปี ภูเขาไฟฟูจิจึงได้ขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกทางวัฒนธรรมอย่างเป็นทางการ เกณฑ์ในการตัดสินคือความสำคัญทางศาสนาและบทบาทในการสร้างแรงบันดาลใจให้กับงานศิลปะจำนวนมาก นอกจากรูปลักษณ์ที่งามสง่าแล้ว ภูเขาลูกนี้ยังเป็นที่เคารพบูชามาเนิ่นนานเพราะเป็นที่สถิตของเทพเจ้า ภูเขาไฟฟูจิยังมีชื่อเสียงด้านอิทธิพลทางวัฒนธรรม โดยปรากฎในบทกวีไฮกุและทังกะ และเป็นแนวคิดหลักของภาพเขียนและ ukiyoe รวมถึงหัวข้องานวรรณกรรมมากมาย ไม่แน่ว่าในอนาคต ภูเขาไฟฟูจิ ภูเขาชื่อดังที่ติดตาตรึงใจชาวญี่ปุ่นมาหลายต่อหลายปี อาจจะกลายเป็นภูเขาที่สร้างชื่อโด่งดังในระดับโลกก็เป็นได้