สถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมของนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติที่นิยมไปชมความงามของพระพุทธรูปและพระพุทธรูปองค์โตที่ญี่ปุ่น มีเพิ่มมากขึ้น ในครั้งนี้จะนำเสนอเกี่ยวกับวัดที่เป็นที่รู้จักในหมู่คนเอเชียนั่นก็คือ วัดโอฟุนะคันนง ทำไมที่นี่ถึงมีชื่อเสียงข้ามพรมแดน?เราไปอ่านเรื่องน่ารู้และสถานที่ที่น่าสนใจกันเลย!
นั่งรถไฟจากสถานีโตเกียวมาถึงสถานีโอฟุนะใช้เวลาประมาณครึ่งชั่วโมง เมื่อถึงสถานี เดินต่อประมาณ 5-6 นาทีจะพบกับ
วัดโอฟุนะคันนงอยู่บนเนินเขา โดยมีรูปปั้นของเจ้าแม่กวนอิมเป็นสัญลักษณ์ประจำวัด ตามชื่อเรียกของวัด (คันนง แปลว่า
เจ้าแม่กวนอิม) ชาวเอเชียจำนวนมากที่อาศัยอยู่ในญี่ปุ่นนิยมไปสักการะเจ้าแม่กวนอิมที่วัดนี้ รวมทั้งนักท่องเที่ยวที่แวะไป
สักการะก็มีจำนวนเพิ่มขึ้น
รูปปั้นเจ้าแม่กวนอิมนั้น ถูกสร้างขึ้นอยู่บนเนินเขา โดยคำนึงถึง
ความปลอดภัยมาก่อน จึงสร้างแค่ส่วนปลาย จากหน้าอกขึ้นมา
รูปปั้นครึ่งตัวเจ้าแม่กวนอิมขนาดใหญ่ที่ตั้งอยู่บนเนินเขาและมีบันไดเดินไปถึงตัวรูปปั้นนั้น เด็กๆแถวนี้เชื่อกันว่า
ส่วนด้านล่างนั้นถูกฝังไว้ในดิน ซึ่งยังไม่เป็นที่ทราบแน่ชัด
ว่าความจริงเป็นอย่างไรแต่ก็ทำให้หลายๆคนจินตนาการ
รูปปั้นเต็มตัวไปต่างๆนาๆ
นอกจากนี้ เมื่อเดินเข้าไปใกล้ๆจะสามารถเห็นรูปปั้นขนาดใหญ่ที่มีความสูงกว่า 25 เมตร ตั้งตระหง่าน พร้อมกับสีหน้าที่แสดงถึงความโอบอ้อมอารีมีเมตตา และเนื่องจากส่วนหน้าอกที่ถูกออกแบบมาให้มีลักษณะกว้างเป็นพิเศษนั้น ก็เพื่อแสดงถึงความโอบอ้อมจิตใจทุกคนเอาไว้ ซึ่งนี่อาจจะเป็นอีกหนึ่งเหตุผลที่ทำให้รูปปั้นเจ้าแม่กวนอิมนี้เป็นที่โด่งดัง
เสียงตอบรับจากคนที่ได้ไปเยี่ยมชมสักการะส่วนใหญ่พูดเป็นเสียงเดียวกันว่า ใหญ่โต หรือขาวบริสุทธ์ ตามที่เห็นในภาพนั้น สีของรูปปั้นเจ้าแม่กวนอิมตัดกับสีฟ้าของท้องฟ้าอย่างสวยงาม และในฤดูใบไม้ผลิคุณสามารถชมความงามของรูปปั้นผสมผสานกับดอกซากุระ ซึ่งให้ความสวยงามไปในอีกรูปแบบหนึ่ง
แท่นหินจากเหตุการณ์ระเบิดปรมาณูที่ฮิโรชิมะ ซึ่งเป็นอนุสาวรีย์
เพื่อระลึกถึงคนที่เสียชีวิตในเหตุการณ์ทิ้งระเบิดปรมาณูที่ฮิโรชิมะ
ถ้ามาเที่ยวเยี่ยมชมที่วัดนี้แล้ว มาแค่สักการะเจ้าแม่กวน-
อิมอย่างเดียวก็ดูจะไม่คุ้ม เราจึงอยากจะนำเสนอสถานที่
น่าสนใจอื่นๆซึ่งตั้งอยู่ภายในวัดโอฟุนะคันนง
เริ่มที่ แท่นหินอนุสาวรีย์ที่รำลึกถึงผู้เสียชีวิตในเหตุการณ์
ระเบิดปรมาณูที่ฮิโรชิมะ ซึ่งเป็นหินที่ถูกนำมาจากเหตุการณ์ระเบิดครั้งนั้น ทำให้อนุสาวรีย์หินนี้กลายเป็นอีกหนึ่งสัญลักษณ์ของวัด และมีคนจำนวนมากที่มาที่นี่เพื่อขอพรเกี่ยวกับสันติภาพ
นอกจากนี้ ที่นี่ยังเป็นที่กล่าวขานถึงความศักดิ์สิทธิ์ของเทพที่ชื่อว่า โคดะคะระ อีกด้วย ซึ่งเชื่อกันว่าเป็นเทพที่ดูแลเด็กๆ ทำให้สถานที่นี้มีคนจำนวนมากนำตุ๊กตาที่เป็นรูปเด็กเล็กมาสักการะเทพองค์นี้เพื่อขอพรเกี่ยวกับลูกหรือเด็กกันอย่างมากมาย เช่น การขอพรให้เทพเจ้าปกป้องคุ้มครองลูก เป็นต้น
เนื่องจากมีชาวเอเซียที่อาศัยอยู่ในญี่ปุ่นนั้นนิยมมาสักการะที่วัดนี้เพิ่มขึ้น นอกจากนี้ยังนิยมมาขอพร ซึ่งรวมถึงการแก้บนว่าจะรำถวายเมื่อคำอธิษฐานนั้นสำเร็จนั้นเพิ่มมากขึ้น จึงทำให้ในปีคศ.1999 เป็นต้นไป ทุกปีจะมีงานเทศกาล ยูเมะ คันนง
เอเซียเฟสติวัล ที่จัดขึ้นที่โอฟุนะ ซึ่งจะจัดปีละ1ครั้ง นอกจากนี้ในงานนี้ยังมีพระสงฆ์เดินทางมาร่วมงานอีกด้วย
มีการแสดงของแต่ละชาติในเอเซีย ทำให้เป็นเทศกาลที่ดึงดูดทั้งคนพื้นเมืองชาวญี่ปุ่นและคนต่างชาติได้เป็นอย่างดี
ในปีนี้ งานเทศกาลยูเมะคันนงนั้นมีกำหนดการจะจัดขึ้นในวันที่ 13 กันยายน และนอกจากนี้งานเทศกาลที่ชื่อว่า แคนเดิล
ไนท์ อิน โอฟุนะคันนง (แสงเทียนยามค่ำคืนของวัดโอฟุนะคันนง) ก็ยังเป็นที่รู้จักกันดี
ในเทศกาลนี้จะมีการเขียนคำอธิษฐานหลายๆภาษาไว้ที่แก้วรอบๆเทียนไขซึ่งตกแต่งอย่างสวยงาม
วัดโอฟุนะคันนง
จังหวัดคานากาวะ คามะคุระ โมะโตะ1-5-3 โทรศัพท์:0467-43-1561 เวลาทำการ:9:00 - 17:00 น. (เดือนกุมภาพนธ์ถึงเดือนตุลาคม) 9:00 - 16:30 น. (เดือนพฤศจิกายนถึงเดือนมกราคม)
ค่าเข้าชม:ผู้ใหญ่300เยน เด็ก100เยน(เด็กประถม)
*สำหรับเด็กเล็กไม่มีค่าใช้จ่ายเยี่ยมชมเป็นหมู่คณะ200เยน(20ท่านขึ้นไป)
http://www.oofuna-kannon.or.jp/
*ราคาที่นำเสนอในตารางนี้ เป็นราคาที่สำรวจเดือนมิถุนายน 2014 ซึ่งเป็นราคาที่รวมภาษี8%ไว้แล้ว